
เป้าหมายสูงสุดของการทำธุรกิจคือ การประสบความสำเร็จใช่ไหมละคะ มีใครบ้างที่ทำธุรกิจแล้วอยากให้องค์กรของตัวเองอยู่กับที่ ตามคู่แข่งไม่ทันสักที ก็คงจะไม่มี ทุกคนล้วนต้องการความสำเร็จ และกว่าจะไปถึงความสำเร็จนั้นก็ต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ “แนวความคิด” ซึ่งมีคำถามมากมายของคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ต้องมี Growth Mindset แบบไหนถึงจะประสบความสำเร็จ? คนที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ และคนที่ประสบความสำเร็จแบบไม่สุดสักที มันต่างกันอย่างไร❓
คนกลุ่มแรกคือคนที่มี Growth Mindset ส่วนที่ประสบความสำเร็จอีกกลุ่มก็คือคนที่คิดว่าตนเองมี Growth Mindset เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น Fixed Mindset มากกว่า แล้วคุณล่ะเป็นคนกลุ่มไหน❓
Growth Mindset คือคนที่มีความคิดแบบเติบโต หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อในสิ่งเดิมก็จะเปลี่ยนไป ไม่ยึดติดกับความเชื่อเดิม และพร้อมหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มทักษะให้กับตัวเองอยู่เสมอ แต่ Fixed Mindset คือคนที่มีความคิดแบบยึดติด เชื่อความคิดและทักษะความสามารถของตนเองที่มีอยู่นั้นถูกต้องแล้ว ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา แล้วเมื่อไหร่คุณจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงสักที
ใคร ๆ ก็อยากให้ตนเองประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น คุณก็ต้องมีการพัฒนาตนเอง เพราะ Mindset คือกระบวนการทางความคิดที่สร้างความแตกต่างได้ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความรู้สึกคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความสำเร็จของคุณด้วย ทุกคนต่างมีความเชื่อในความสามารถและศักยภาพของตนเอง แต่อย่าลืมว่า โลกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากคุณไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยก็จะไม่เกิดการพัฒนา
Fixed Mindset คืออะไร
เป็นกระบวนการคิดแบบยึดติด เป็นทัศนคติของคนที่มักจะเชื่อว่าความฉลาด พรสวรรค์ และบุคลิกภาพมีลักษณะเฉพาะ ไม่สามารถพัฒนาได้แล้ว ไม่กล้าที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ โดยจะมีความเชื่อที่ว่า ทักษะความสามารถของตนเองที่มีมาตั้งแต่เกิดนั้นถูกต้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนิสัยดั้งเดิม หรือพรสวรรค์ต่าง ๆ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ทำให้ไม่เกิดการพัฒนา ไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone แล้วเมื่อไหร่คุณจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงสักที ซึ่ง Fixed Mindset จะเป็นแนวคิดที่ต่างจาก Growth Mindset โดยสิ้นเชิง
Growth Mindset คืออะไร
การพัฒนากระบวนการคิดแบบ Growth Mindset คือคนที่มีความคิดแบบเติบโต หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไปความเชื่อในสิ่งเดิมก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ไม่ยึดติดกับความเชื่อเดิม ๆ เป็นแนวความคิดที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ เพราะพร้อมรับและหาความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มทักษะให้กับตัวเอง ได้อย่างอิสระมากขึ้น ควรปลูกฝัง Growth Mindset ตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะความคิดของคนเราจะถูกจดจำพฤติกรรมต่าง ๆ มาตั้งแต่วัยเด็ก ต้องสอนให้รู้จักลงมือทำ เรียนรู้ข้อผิดพลาดได้ด้วยตนเอง แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักห้ามว่าอย่างทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้ โดยที่เด็กไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องห้ามทำ ดังนั้นสมองของเด็กก็จะจำว่าถ้าทำแล้วจะต้องโดนดุจึงไม่ทำอีก ไม่กล้าคิดเอง ต้องคอยถามอยู่ตลอดว่าทำได้ไหม นิสัยเหล่านี้ก็จะติดมาจนถึงตอนโต ทำให้ไม่ค่อยกล้าลงมือทำ แต่คนที่มี Growth Mindset จะมีความพยายามในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ออกนอกกรอบเดิม ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าโตมาแล้วคุณจะมีแต่ Fixed Mindset ตลอดไป ทุกคนล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด คุณเองก็เป็นคนที่มี Growth Mindset ได้เช่นกัน
ลักษณะ Growth Mindset ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
- เชื่อมั่นในตัวเอง
- ยอมรับข้อผิดพลาด
- พร้อมเผชิญความท้าทาย
- หาจุดแข็งและพัฒนาให้ดีขึ้น
- น้อมรับคำวิจารณ์เพื่อมาปรับปรุง
เชื่อมั่นในตัวเอง
เชื่อว่าตนเองทำได้ และเข้าใจในตัวเองว่าเก่งหรือมีความถนัดด้านไหนเป็นพิเศษ เชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองต้องการ มั่นใจในสิ่งที่คิดและตัดสินใจ กล้าที่จะลงมือทำไม่กลัวอุปสรรคใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม คนเราต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น ลงมือทำผิดพลาดกี่ครั้งไม่รู้กี่ครั้งจนประสบความสำเร็จ
ยอมรับข้อผิดพลาด
การลงมือทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะยากหรือง่าย ล้วนเกิดข้อผิดพลาดได้ทั้งนั้น เพราะคุณไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งลงมือทำ ยิ่งเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตนเอง คนแบบนี้จะเป็นคนที่ยอมรับความไม่สมบูรณ์ของตนเอง และจะปกปิดความไม่สมบูรณ์นี้ด้วยการเรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นคนที่เก่งขึ้นให้ได้นั่นเอง นี่ถึงเรียกว่าลักษณะของคนที่มี Growth Mindset
พร้อมเผชิญความท้าทาย
คนที่มี Growth Mindset จะมีนิสัยชอบความท้าทาย และกล้าเสี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มความเก่งให้ตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ชอบอยู่ใน Comfort Zone โลกนี้มีอะไรให้ทำอีกเยอะ ถ้ามัวอยู่แต่ในกรอบเดิม ๆ ทำอะไรเดิม ๆ ก็ไม่มีทางเติบโต คนเหล่านี้ยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ช่วยสร้างแรงผลักดันให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในชีวิต
รู้จุดแข็งและพัฒนาให้ดีขึ้น
แน่นอนว่าคนที่มี Growth Mindset นั้นจะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง รู้จักตัวเองว่าถนัดด้านไหนมากที่สุด รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง อยากเรียนรู้ หมั่นศึกษาเพื่อพัฒนาให้ตัวเองรู้มากขึ้นจนเชี่ยวชาญ คนเหล่านี้มักเข้าใจในสิ่งนี้ดี โฟกัสจุดแข็ง เพื่อลดจุดอ่อนของตัวเองมีให้น้อยที่สุด พร้อมมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ
น้อมรับคำวิจารณ์เพื่อมาปรับปรุง
ไม่มีใครประสบความสำเร็จตั้งแต่เกิด ล้วนต้องล้มลุกคลุกคลานมาทั้งนั้น คำวิจารณ์หรือคำติชมจากคนรอบข้างเป็นบทเรียนอันสำคัญที่ต่อยอดการเรียนรู้ข้อผิดพลาดให้กับผู้ที่มี Growth Mindset เพราะคนอื่นมักจะมองเห็นตัวคุณเองในบางมุมที่คุณอาจไม่รู้ตัว
วิธีสร้าง Growth Mindset ให้กับทีม เพื่อพัฒนาให้องค์กรประสบความสำเร็จขึ้นอีกเท่าตัว
สร้างโอกาสการเรียนรู้
การนำเทคโนโลยีหรือ Project Management Tools เข้ามาช่วยลดขั้นตอนของการทำงาน ให้บุคลากรได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และเพิ่มความสะดวกในการทำงาน สร้างโอกาสให้พนักงานมีทักษะอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตด้วย ทั้งการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน การจัดการความขัดแย้ง การตัดสินใจ
ส่งเสริมให้พนักงานแต่ละแผนกได้สื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้ให้แก่กัน นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีขึ้นด้วย แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์เพื่อการทำงานที่ลงตัว เช่น Project Manager มีการศึกษาข้อมูลการพัฒนาระบบกับทีมพัฒนาระบบ หากลูกค้ามีคำถาม Project Manager ก็จะสามารถตอบคำถามด้านเทคนิคในเบื้องต้นได้โดยที่ไม่ต้องรอไปถามทีมพัฒนาระบบ ทำให้เกิดความรวดเร็วในงานมากขึ้น และไม่เพียงแต่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในที่ทำงาน ยังนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม ข้อดีของ Project Management Tools คลิก
สร้างพื้นที่การทำงาน
บางครั้งการอยู่ในที่ทำงานเดิม ๆ ในห้องแคบ ๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง ไม่ได้รับแสงธรรมชาติเลย ก็ทำให้ไม่เกิด Productivity ในการทำงาน เนื่องจากสภาพแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่ม Productivity ให้พนักงานรู้สึกสบายใจกับการทำงานมากยิ่งขึ้น องค์กรควรมีการปรับพื้นที่การทำงานให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานส่งเสริมให้เกิด Growth Mindset ในองค์กร
ปัจจุบันการทำงานในรูปแบบ Hybrid ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พนักงานได้รับอิสระในการทำงานมากกว่ารูปแบบเดิม เช่น สามารถทำงานที่บ้านหรือเลือกสถานที่ทำงานเองได้ที่คิดว่าจะสร้าง Productivity ให้กับตนเองมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศก็ได้ สิ่งแวดล้อมภายนอกที่ดีก็ช่วยส่งเสริมให้เกิด Growth Mindset ในตัวบุคลากรด้วยเช่นกัน
ส่งเสริมให้ทดลองสิ่งใหม่
ความคิดของคนเราไม่มีข้อจำกัด อยู่ที่คุณจะจำกัดการเรียนรู้ให้ตนเองหรือไม่ การเปิดกว้างให้พนักงานได้ลองทำสิ่งใหม่ นั่นไม่ใช่การเปิดโอกาสให้พนักงานมีข้อผิดพลาด แต่คือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ให้สมองได้เกิดการพัฒนา ได้คิดวิเคราะห์ เพราะลักษณะสำคัญของคนที่มี Growth Mindset คือกล้าที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ แม้จะไม่เคยทำมาก่อน ไม่หยุดพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ทำให้เกิดความท้าทายเมื่อลงมือทำ
ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร การปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ องค์กรต้องมีการนำ Project Management Tools เข้ามาช่วยจัดการงานบริหารทีม การได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ นอกจากช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานแล้ว ยังช่วยให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
จ้างคนที่มี Mindset เพื่อกระตุ้นให้คนอื่นในองค์กรเปลี่ยน Mindset
คนเรามักจะมีพฤติกรรมที่เลียนแบบผู้อื่นอยู่เสมอ ดังคำสุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ปรับพฤติกรรมคล้อยตามให้เข้ากันได้กับสภาวะแวดล้อมหรือสังคมที่เป็นอยู่ ยิ่งอยู่กับคนเก่ง คุณก็จะมีความคิดแบบคนเก่ง
สร้างแนวคิดให้เติบโต
ความคิดนี้จะทำให้คุณขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า และส่งต่อแนวคิดนี้ให้บุคลากรในองค์กรของคุณเติบโตไปพร้อมกัน ตั้งเป้าหมายให้กับองค์กรและแบ่งย่อยเป้าหมายแจกแจงให้กับบุคลากรทุกคน เพราะเป้าหมายจะสร้างเส้นทางการขับเคลื่อนแนวคิดอย่างมีแบบแผน หากไม่มีเป้าหมาย ก็จะขับเคลื่อนอย่างไร้จุดหมาย ยิ่งคุณพยายามไปให้ถึงเป้าหมายมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นแปลว่าคุณต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเท่านั้น ยิ่งทำยิ่งเติบโต ไม่ทำก็หยุดอยู่แค่นั้น การปลูกฝังความคิดให้เติบโตกับการลงมือทำอะไรใหม่ ๆ ที่มีความท้าทาย อย่ากลัวที่จะล้มเหลว พุ่งชนมันซะ แล้วคุณจะพบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง
อ่านเพิ่มเติม เพิ่ม Productivity ในการทำงานด้วยหลักการ Agile คลิก
องค์กรไม่ได้ขับเคลื่อนได้ด้วยผู้บริหารเพียงคนเดียว แต่ขับเคลื่อนด้วยบุคลากรที่มี Growth Mindset แบบเดียว และการที่มีคนเก่งเพียงอย่างเดียวแต่ไม่พร้อมที่จะปรับตัว ก็ไม่สามารถทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น คนที่มีความคิดแบบ Growth Mindset จึงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงได้ในระยะยาว
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก!!!👉 https://manawork.com/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางทีมงานได้ทาง Facebook หรือ Line
นัดเดโม่ / ข้อเสนอแบบองค์กร ติดต่อได้ที่ 063-535-1193 (ทีมมานะ)
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
#MANA มานะ
