หนึ่งในปัญหาที่พบเจอบ่อยที่สุดของการทำ Website Marketing คือ การที่เว็บไซต์ยังไม่สามารถสร้างยอด Conversion ได้มากเท่าที่ควร การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การดึงดูดให้ลูกค้าใช้เว็บไซต์ของคุณได้นานขึ้น
นักการตลาดหลายท่านอาจจะเริ่มสงสัยว่า ทำไม ลูกค้าใช้เวลากับเว็บไซต์คุณแค่พักเดียว ก็กดออกไป เลยส่งผลให้สิ่งที่เรียกว่า Bounce Rate บนเว็บไซต์ของคุณสูง และยังทำให้ Google ให้คะแนนเว็บไซต์แย่แถมอันดับไม่ค่อยดีไว้ในหน้า SERP อีกด้วยทำให้ลูกค้าใหม่ ๆ จะหาเว็บไซต์ของเรายากขึ้นไปอีก แน่นอนว่า การทำ SEO ก็สามารถช่วยให้ลูกค้าเจอเว็บไซต์จากหน้า SERP ได้ แต่ SEO ช่วยได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ เว็บไซต์
เรามารู้เคล็ดลับการปรับเว็บไซต์ให้ดึงดูดใจลูกค้ากัน เริ่ม!!
1. ปฏิวัติด้วย Redesign เว็บไซต์ใหม่
จากการสำรวจของ SAG lpl พบว่า 38% ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ทั่วโลก จะหยุดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ทันที ถ้าหากเว็บไซต์นั้นมีหน้าตาที่ไม่ดึงดูด การ Redesign เว็บไซต์เป็นเสมือนการยกเครื่อง รีเซต จะทำให้หน้าตาของเว็บไซต์มีความทันสมัย เป็นปัจจุบันมากขึ้น โดยการจัดวาง Layout ต่าง ๆ, ลด Text แล้วเพิ่มรูปให้สื่อความหมายแทน, ปรับปรุง Mood & Tone และ Color Theme ของเว็บไซต์ เป็นต้น
2. Responsive Design And Mobile Friendly
ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของ User ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำผ่านคอมพิวเตอร์อีกต่อไป หากแต่อุปกรณ์พกพานั้นเข้ามามีบทบาทแทน เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน เป็นต้น โดยหน้าที่ของนักการตลาด คือการตรวจเช็ก Website ว่ารองรับการใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ เพราะจากการสำรวจของ truconversion พบว่าเว็บไซต์ที่ Mobile Friendly จะสามารถช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้มากถึง 30% เลยทีเดียว
3. ปรับปรุง Page Speed ให้เร็วกว่าเดิม
จริง ๆ แล้ว ความเร็วของเว็บไซต์ (Page Speed) ที่ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าไม่กดออกไปซะก่อนก็คือ ไม่เกิน 2 วินาที ซึ่งเราควรทำให้ได้ประมาณ 0.5 - 1 วินาทีด้วยซ้ำ เพราะทุกวินาทีที่โหลดจำนวน Visitor ที่ต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์ก็หายไป และส่งผลทำให้ Bounce Rate สูงลิบด้วยเช่นกัน แนะนำให้ลอง Optimize ไฟล์รูปหรือวิดีโอที่อยู่บนเว็บดู วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ Page Speed ดีขึ้นแล้วยังส่งผลต่อ SEO อีกด้วย
4. ออกแบบ Call To Action ให้มีความ Personalized มากขึ้น
การได้มา Conversion Rate น่าจะเป็นเป้าหมายลำดับต้น ๆ ที่นักการตลาดหรือเจ้าของเว็บไซต์ต้องการมากที่สุด ซึ่งการที่จะได้มานั้น ต้องอาศัยการออกแบบ Call To Action ให้มีความ
โดดเด่นกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ในตลาด ซึ่งในการออกแบบ Call To Action ที่ดีและสามารถมัดใจลูกค้าได้นั้น คุณต้องมีการออกแบบให้มีความ Personalized มากขึ้น ลองออกแบบปุ่ม CTA ให้มีความน่าสนใจมากกว่าแค่คำว่า “อ่านต่อ”, “คลิกที่นี่” เช่น “เป็นส่วนหนึ่งกับเรา”, “รู้จักเรามากขึ้น” หรือคำอื่น ๆ ที่คิดว่าเหมาะสมกับธุรกิจ
5. เพิ่ม Search Bar ทุกหน้า เพื่อให้ลูกค้าค้นหาสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง
การเพิ่ม Search Bar ที่ด้านบนขวาหรือบนซ้ายลงไปในทุกเพจของเว็บไซต์ ก็เปรียบเหมือนการให้ลูกค้าได้มีโอกาสลองค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการด้วยตัวเอง ก็จะทำให้มีโอกาสที่จะได้ยอด Reach หรือ Conversion Rate ที่ดี และยังเป็นโอกาสให้ได้เจอกับเว็บเพจบทความอื่น ๆ เรียกว่า เทคนิคโชค 2ชั้น เพียงแค่ลองเพิ่ม Search Bar ลงไปในเว็บไซต์เท่านั้นเอง
มาดูการกันว่า MANAWORK จะช่วยในเรื่องนี้ได้ยังไง
จะเห็นได้ว่า การปรับเว็บไซต์นั้นทำได้ง่าย ๆ แต่การปรับแต่ละวิธีนั้นย่อมใช้เวลาในการปรับ และบางทีก็มักจะต้องปรับปรุงหลายๆอย่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์มีความสมัยและดึงดูดลูกค้ามากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงงานที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพมักจะต้องมี Teamwork เป็นส่วนสำคัญเพราะฉะนั้นจะต้องมีเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยจัดการ อย่าง MANAWORK
MANAWORK เป็น Project Management ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกับ Teamwork เป็นสิ่งง่าย โดยการสร้าง Template เสมือนโปรเจกต์โปรเจกต์หนึ่งของคุณ ภายในโปรเจกต์สามารถสร้างขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงความสำเร็จของการทำงาน มีระบบการแจ้งเตือนการทำงานที่รวดเร็วเมื่อมี Teamwork ก็มักจะต้องแบ่งการทำงาน MANAWORK จึงตอบโจทย์ในเรื่องนี้ และ MANAWORK ยังมีระบบต่าง ๆ มีสามารถช่วยคุณได้ เริ่มต้นการใช้งานกับเรา!!
อ้างอิงจาก https://thegrowthmaster.com/blog/reduce-bouncerate-tips
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก!!!👉 https://manawork.com/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางทีมงานได้ทาง Facebook หรือ Line
นัดเดโม่ / ข้อเสนอแบบองค์กร ติดต่อได้ที่ 063-535-1193 (ทีมมานะ)
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
#MANA มานะ
