
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอนยันหลับก็ต้องใช้เทคโนโลยีแล้ว เพราะเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตของทุกคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานที่เกิดนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีอย่างไม่มีวันหยุด
การปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ เดินหน้าธุรกิจเท่าทันแพ้คู่แข่ง และการจะเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดไม่ใช่แค่การปรับตัวของผู้บริหารเท่านั้น แต่จะต้องเป็นการปรับตัวของทุกคนในองค์กร พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ นำไปปรับใช้กับการทำงานรวมกัน
ไม่มีใครหรือองค์กรไหนที่หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีได้ อยู่ที่ว่าใครมีการปรับตัวมากกว่ากัน ถึงจะอยู่รอดในยุคที่เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในทุกระดับ ในบทความนี้เรามีกลยุทธ์เด็ดมาให้คุณลอง เพื่อให้ก้าวสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
7 กลยุทธ์ ให้พนักงานปรับตัวเท่าทันเทคโนโลยี
1. ระดมความคิดเห็นของทุกคนในองค์กร

การระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมและเกิดเข้าใจที่ตรงกันถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
กำหนดวัตถุประสงค์ของการระดมความคิดเห็น อันดับแรกเลยต้องเริ่มต้นด้วยการจัดการสร้างความเข้าใจกับพนักงาน แน่นอนว่าพนักงานในองค์กรมี 3 Generetion ทุกคนล้วนมีความแตกต่างทางความคิดมากมายจึงต้องมีการอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในองค์กรที่จะส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจและพนักงาน
แบบสอบถามสำหรับพนักงาน เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ว่ามีส่วนช่วยในการทำงานหรือไม่? หรือมีจุดไหนที่ยังคิดว่าไม่ดี และมีแนวคิดที่จะแก้ไขอย่างไร แล้วมาดูกันว่าความคิดเห็นของพนักงานตรงกับองค์กรหรือไม่
จัดตั้งทีมหรือกรรมการในการหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแต่ละแผนกได้อย่างไรบ้าง และหาทางออกที่ดีให้กับทุกทีมและองค์กรอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว
การระดมความคิดเห็นไม่ใช้เพียงแค่เรื่องสอบถามความคิดเห็น แต่ยังต้องมีการดำเนินการต่อไปด้วยการปรับ Mindset ให้ทุกคนเข้าใจในทิศทางเดียวกันและยอมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มใจ พร้อมที่จะเติบโตไปกับองค์กรอย่างยั่งยืน
อ่านเพิ่มเติม Growth Mindset เท่ากัน แต่สำเร็จไม่เท่ากัน? คลิก
2. การสื่อสารให้เข้าใจและเกิดประโยชน์

ปัญหาหลักที่ต้องต่อสู้กับการต่อต้านของพนักงาน:
ขาดการสื่อสารจากผู้บริหาร: การสื่อสารในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็คุยกันได้ ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต้องมีการกำหนดการจัดประชุมทีมถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่เข้ามาส่งผลต่อการทำงานของพนักงาน โดยประชุมผ่านเครื่องมือออนไลน์เช่น Zoom, Microsoft Teams, Google Meet, Discord และอีกมากมายให้คุณได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมขององค์กร เพื่อให้ง่ายและเป็นการเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีไปในตัวด้วยค่ะ
ไม่เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่: ในการประชุมที่เกิดขึ้นจะขาดไม่ได้เลยคือการสื่อสารถึงประโยชน์ต่าง ๆ ของเทคโนโลยีที่จะนำเข้ามาใช้ได้อย่างชัดเจน เช่น ประหยัดเวลา ลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น เป็นต้น
3. รับพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

กลยุทธ์สำคัญอีกข้อเลยก็คือการรับพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจและการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่สามารถฉุดดึงพนักงานในองค์กรที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงหรือใช้เทคโนโลยียังไม่เป็น ให้หันมาสนใจ เลิกกังวลว่าเทคโนโลยีจะมาแทนที่ เทคโนโลยีจะมาเพิ่มความลำบาก แต่เป็นการช่วยให้พวกเขามีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีในการทำงานให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบโจทย์ความต้อง การของพนักงานให้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ในการรับพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี สามารถเริ่มต้นด้วยการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ที่มีมากมายในปัจจุบัน โดยระบุคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญในด้านที่องค์กรต้องการให้ชัดเจน เช่น ทักษะด้านออกแบบเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ เพื่อให้ได้พนักงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด
4. สนับสนุนการฝึกอบรมเพิ่มทักษะให้พนักงาน

เมื่อรับพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเพิ่มทักษะให้กับพนักงานคนอื่น ๆ ที่อยู่ในองค์กรด้วย การสนับสนุนการฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและทักษะที่เป็นที่ต้องการในการทำงานขององค์กร นอกจากนี้ การฝึกอบรมยังช่วยให้พนักงานมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีม อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความสามารถให้กับพนักงานและส่งเสริมการเติบโตขององค์กรในระยะยาว
การฝึกอบรมสามารถทำได้หลายวิธี เช่นการตัดอบรมภายในองค์กร หรือการสนับสนุนพนักงานให้เข้าร่วมอบรมภายนอกองค์กร เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อฝึกอบรมได้อีกด้วย เช่น การใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ หรือเทคโนโลยีการจำลองการทำงาน (simulated work environment) เพื่อฝึกทักษะการทำงานใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูงสุด
5. ให้พนักงานเรียนรู้ด้วยตัวเอง

การเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นวิธีการที่สำคัญในการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีของพนักงาน โดยในปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์มากมายมีทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่ายบนเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Coursera, Skooldio, SkillLane และ Udemy เป็นต้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับพัฒนาทักษะที่มีคอร์สเรียนหลายวิชาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและการทำงานอีกมากมาย พนักงานสามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความต้องการและยังสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาตามสะดวกอีกด้วย
นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถจัดทำคอร์สเรียนเพิ่มเติมภายในองค์กรเพื่อเพิ่มทักษะให้กับพนักงาน โดยให้ทีมหรือพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สามารถสอนและให้คำปรึกษาในแต่ละวิชาได้ โดยเน้นเป็นการเรียนรู้ที่ใช้งานได้จริงและสอดคล้องกับธุรกิจ
6. เหตุผล คือคำตอบว่าทำไมต้องปรับตัว

บางครั้งพนักงานอาจต้องมีแรงจูงใจหรือโน้มน้าวถึงความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีใหม่ การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องช่วยในเรื่องนี้ได้
จัดเวิร์กชอป ให้ทุกคนได้ลองใช้เทคโนโลยีใหม่และเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีเดิมที่เคยใช้ เสมือนเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์ สร้างการส่วนร่วมให้พนักงานได้มีการพัฒนาทักษะของพวกเขา และช่วยให้องค์กรรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับความสำเร็จในการฝึกอบรม
แข่งขันประชันความรู้ อาจจะยกเคสที่เกิดขึ้นจริงมาให้แต่ละทีมได้ลองคิดสิ่งที่แปลกใหม่กว่าและช่วยแก้ปัญหาได้อย่างลงตัว โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ จะทำให้พนักงานทุกคนได้ใช้ความคิด แสดงความคิดเห็นร่วมกันมากขึ้น และแชร์เรื่องราวร่วมกันในแต่ละทีม
การให้สิ่งจูงใจแก่พนักงานในการใช้เทคโนโลยีใหม่ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน โบนัสเล็กน้อยหรือคำชมให้กำลังใจก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้พนักงานลองใช้ และเกิด Impact อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้องค์กรจัดการกับข้อกังวลหรือประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
7. ตั้งเป้าหมายร่วมกัน

การตั้งเป้าหมายร่วมกันในการเปลี่ยนแปลงขององค์กรให้เท่าทันเทคโนโลยี ช่วยให้องค์กรปรับตัวในโลกของธุรกิจที่มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ล้าหลังกว่าคู่แข่ง
การตั้งเป้าหมายในองค์กรควรเริ่มด้วยการกำหนด OKRs ที่ชัดเจน และวัดผลที่เป็นจริงได้ โดยตั้งเป้าหมายใหญ่สำหรับองค์กรให้เห็นเป็นรูปธรรม เจาะจงเป้าหมายของแต่ละทีมเพื่อสร้างเป้าหมายใหญ่ให้เป็นจริง และตั้งเป้าหมายของแต่ละคนว่าต้องทำอะไรบ้างถึงจะไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ให้มีความท้าทายและกระตุ้นให้พนักงานอยากลงมือทำ
การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโดยการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง และการสนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงไปของโลกเทคโนโลยี นอกจากนี้ ควรมีการติดตามผลลัพธ์และวัดผลเพื่อให้สามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการ
สรุป
โลกที่หมุนไปด้วยเทคโนโลยีต้องปรับตัวให้เท่าทันก่อนถูก Duisruption ต้องเอาชนะใจพนักงานที่ต่อด้านความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้พนักงานปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ได้ และมีแนวโน้มที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคตมาปรับใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี
อ้างอิงจาก
